ทำไม? ทุบโหนก ตัดกราม หน้าเรียว V Shape : แต่หน้าคล้อยหลังผ่าตัด?

การผ่าตัดทุบโหนกและตัดกรามเป็นศัลยกรรมยอดฮิตที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว วิธีที่ได้รับความนิยมในการทำหน้าเรียว เพื่อให้ใบหน้ามีลักษณะ V Shape แต่ในบางกรณี หลังจากผ่าตัดอาจเกิด ปัญหาหน้าคล้อยหลังผ่าตัดทุบโหนกตัดกราม ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน แม้จะมีการปรับโครงหน้าแล้วก็ตาม การแก้ไขหลังทุบโหนกตัดกราม วิธีแก้ไขหน้าคล้อย ทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เห็นผลชัด คือ การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)

สาเหตุของปัญหาหน้าคล้อยจากการทุบโหนกและตัดกราม

1.การปรับโครงหน้าเกินไป (Excessive Reshaping of the Facial Structure) 

การทุบโหนกหรือการตัดกรามโดยการตัดกระดูกมากเกินไปอาจทำให้โครงสร้างใบหน้าขาดความสมดุล ใบหน้า 2 ข้างไม่เท่ากันโดยเฉพาะบริเวณกรามที่เป็นโครงสร้างรองรับหลักของใบหน้า การปรับเปลี่ยนที่มากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูแบนราบและเกิดการคล้อยลงบริเวณขากรรไกร (Mandible) และบริเวณคาง

2. การลดปริมาตรของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (Loss of Subcutaneous Tissue Volume)

การสูญเสียเนื้อเยื่อไขมันและกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้ผิวหนังที่ทำหน้าที่รองรับผิวหน้า เมื่อเนื้อเยื่อเหล่านี้หายไป ทำให้ผิวหน้าไม่สามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เกิด การหย่อนคล้อย หรือ หน้าคล้อย ในระยะยาว (Sagging) โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการตัดกรามหรือทุบโหนกมากเกินไป ทำให้ใบหน้าไม่สมดุลและดูไม่กระชับ
 

3. การสูญเสียการยึดเกาะของผิวหนัง (Loss of Skin Elasticity)

การผ่าตัดต้องการ การเลาะกระดูกโหนกแก้ม หรือ กระดูกขากรรไกรออกจาก กล้ามเนื้อและผิวหนัง ถ้าศัลยแพทย์ผ่าตัดเลาะเนื้อเยื่อเป็นวงกว้างมากเกินไป จะทำให้เนื้อเยื่อถูกยืดออกมาก จะทำให้เสียยืดหยุ่นตามธรรมชาติ ส่งผลให้เกิด การคล้อยลง หรือ ผิวหย่อนคล้อย บริเวณที่ได้รับการผ่าตัด ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่กระชับและอาจเสียความสมดุลของรูปหน้า
 

4. การผ่าตัดที่ไม่ได้ผล (Unsuccessful Surgery)

ซึ่งอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การคำนวณปริมาณกระดูกที่ต้องการตัดผิดพลาด หรือการเลือกวิธีการผ่าตัดที่ไม่เหมาะสมกับโครงสร้างใบหน้า ซึ่งทำให้เกิดปัญหาผิวหย่อนคล้อยและขาดความกระชับ การตัดเนื้อเยื่อหรือกระดูกมากเกินไปอาจทำให้ผิวหนังไม่สามารถยืดหยุ่นและปรับตัวตามโครงหน้าที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างเหมาะสม

ผลกระทบจากปัญหาหน้าคล้อย

1. ลักษณะใบหน้าที่ไม่สมดุล (Facial Asymmetry)

ปัญหาหน้าคล้อยอาจทำให้ใบหน้ามีความไม่สมดุล โดยเฉพาะในกรณีที่ขากรรไกรหรือตำแหน่งของโหนกแก้มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เหมือนเดิม

2. การสูญเสียความมั่นใจ (Loss of Confidence)

การเปลี่ยนแปลงใบหน้าอาจทำให้ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดรู้สึกไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง แม้ว่าการผ่าตัดจะมีจุดประสงค์เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูดีขึ้น แต่หากเกิดปัญหาหน้าคล้อย ก็อาจมีผลกระทบด้านจิตใจ

3. ปัญหาทางการแพทย์ (Medical Complications)

บางกรณีการคล้อยอาจส่งผลให้เกิดปัญหาทางการแพทย์ เช่น การหดตัวของกล้ามเนื้อในบริเวณที่ถูกผ่าตัด การบวมที่ไม่หายไป การกระทบกระเทือนต่อเส้นประสาท ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบหรือปัญหาผิวหนังที่ต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม

ทุบโหนก ตัดกราม: ปัญหาหน้าคล้อยหลังผ่าตัดและทางเลือกในการแก้ไข

1. การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift Surgery)

การยกกระชับผิวหน้า หรือผ่าตัดดึงหน้า (Rhytidectomy) เป็นทางเลือกที่สามารถทำได้หากปัญหาหน้าคล้อยเกิดจากการสูญเสียความยืดหยุ่นของผิวหนัง หลังจากการผ่าตัดผิวจะถูกดึงขึ้นและกระชับมากขึ้น ช่วยให้ใบหน้ากลับมาเต่งตึงและลดความหย่อนคล้อย

2. การผ่าตัดฟื้นฟูโครงหน้า (Facial Reconstruction Surgery)

หากเกิดปัญหาหน้าคล้อยจากการตัดกรามหรือทุบโหนกที่มีผลกระทบอย่างชัดเจน การทำศัลยกรรมฟื้นฟูโครงหน้า (Reconstructive Surgery) เป็นตัวเลือกที่สามารถปรับโครงสร้างของใบหน้าให้กลับมามีสมดุลและเป็นธรรมชาติ การผ่าตัดนี้อาจรวมถึงการเสริมโครงหน้าใหม่ เช่น การใช้วัสดุเสริมโครงสร้างเพื่อเติมเต็มบริเวณที่ถูกตัดออก

3. การใช้ฟิลเลอร์ (Dermal Fillers) ร่วมกับ การฉีดโบท็อกซ์ (Botox Injections)

ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เป็นตัวเลือกที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด และสามารถใช้ในการเติมเต็มบริเวณที่คล้อยหรือสูญเสียความสมมาตร ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเต็มและกระชับขึ้น และการฉีดโบท็อกซ์สามารถใช้เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อาจส่งผลต่อการคล้อยของใบหน้า โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวหรือการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อมากเกินไป

4. การใช้เครื่องเทคโนโลยีไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Treatments) 

หนึ่งในทางเลือกที่ไม่ต้องผ่าตัดเพื่อ ยกกระชับผิว และ ลดการคล้อย คือการใช้ คลื่นเสียงความถี่สูง หรือ Ultrasonic  ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นเสียงในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ใต้ผิวหนัง การกระตุ้นนี้ช่วยกระชับผิวหน้าและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ทำให้ผิวหนังดูตึงและกระชับขึ้น เช่น UltraformerIII Sofwave

สรุป

ปัญหาหน้าคล้อยจากการทุบโหนกหรือตัดกรามเป็นปัญหาที่เกิดจากการผ่าตัดที่ไม่สมดุลหรือการเปลี่ยนแปลงของโครงหน้าเกินไป ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี ตั้งแต่การผ่าตัดฟื้นฟูโครงหน้า การยกกระชับผิวหน้า ไปจนถึงการใช้ฟิลเลอร์หรือเทคโนโลยีการรักษาผิวแบบไม่ผ่าตัด การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาจากลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล  ร่วมกับคำแนะนำจากศัลยแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด

Translate »