การผ่าตัดทุบโหนกและตัดกรามเป็นศัลยกรรมยอดฮิตที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียว วิธีที่ได้รับความนิยมในการทำหน้าเรียว เพื่อให้ใบหน้ามีลักษณะ V Shape แต่ในบางกรณี หลังจากผ่าตัดอาจเกิด ปัญหาหน้าคล้อยหลังผ่าตัดทุบโหนกตัดกราม ซึ่งทำให้ใบหน้าดูไม่สมส่วน แม้จะมีการปรับโครงหน้าแล้วก็ตาม การแก้ไขหลังทุบโหนกตัดกราม วิธีแก้ไขหน้าคล้อย ทำได้หลายวิธี แต่วิธีที่เห็นผลชัด คือ การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift)
สาเหตุของปัญหาหน้าคล้อยจากการทุบโหนกและตัดกราม
1.การปรับโครงหน้าเกินไป (Excessive Reshaping of the Facial Structure)
การทุบโหนกหรือการตัดกรามโดยการตัดกระดูกมากเกินไปอาจทำให้โครงสร้างใบหน้าขาดความสมดุล ใบหน้า 2 ข้างไม่เท่ากันโดยเฉพาะบริเวณกรามที่เป็นโครงสร้างรองรับหลักของใบหน้า การปรับเปลี่ยนที่มากเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูแบนราบและเกิดการคล้อยลงบริเวณขากรรไกร (Mandible) และบริเวณคาง

2. การลดปริมาตรของเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง (Loss of Subcutaneous Tissue Volume)
3. การสูญเสียการยึดเกาะของผิวหนัง (Loss of Skin Elasticity)
4. การผ่าตัดที่ไม่ได้ผล (Unsuccessful Surgery)
ผลกระทบจากปัญหาหน้าคล้อย
1. ลักษณะใบหน้าที่ไม่สมดุล (Facial Asymmetry)
ปัญหาหน้าคล้อยอาจทำให้ใบหน้ามีความไม่สมดุล โดยเฉพาะในกรณีที่ขากรรไกรหรือตำแหน่งของโหนกแก้มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้ใบหน้าดูไม่เหมือนเดิม
2. การสูญเสียความมั่นใจ (Loss of Confidence)

3. ปัญหาทางการแพทย์ (Medical Complications)
ทุบโหนก ตัดกราม: ปัญหาหน้าคล้อยหลังผ่าตัดและทางเลือกในการแก้ไข
1. การผ่าตัดดึงหน้า (Facelift Surgery)

2. การผ่าตัดฟื้นฟูโครงหน้า (Facial Reconstruction Surgery)

3. การใช้ฟิลเลอร์ (Dermal Fillers) ร่วมกับ การฉีดโบท็อกซ์ (Botox Injections)
ฟิลเลอร์ (Hyaluronic Acid) เป็นตัวเลือกที่ไม่ต้องใช้การผ่าตัด และสามารถใช้ในการเติมเต็มบริเวณที่คล้อยหรือสูญเสียความสมมาตร ซึ่งจะช่วยให้ใบหน้าดูเต็มและกระชับขึ้น และการฉีดโบท็อกซ์สามารถใช้เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่อาจส่งผลต่อการคล้อยของใบหน้า โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการเคลื่อนไหวหรือการยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อมากเกินไป
4. การใช้เครื่องเทคโนโลยีไม่ต้องผ่าตัด (Non-Surgical Treatments)

สรุป
ปัญหาหน้าคล้อยจากการทุบโหนกหรือตัดกรามเป็นปัญหาที่เกิดจากการผ่าตัดที่ไม่สมดุลหรือการเปลี่ยนแปลงของโครงหน้าเกินไป ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยหลายวิธี ตั้งแต่การผ่าตัดฟื้นฟูโครงหน้า การยกกระชับผิวหน้า ไปจนถึงการใช้ฟิลเลอร์หรือเทคโนโลยีการรักษาผิวแบบไม่ผ่าตัด การเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสมจะต้องพิจารณาจากลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล ร่วมกับคำแนะนำจากศัลยแพทย์หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและเหมาะสมที่สุด
