เสริมความมั่นใจและความงามที่เป็นธรรมชาติ ด้วยเทคนิคการปรับรูปหน้าที่ทันสมัย ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ที่สวยงามลงตัว เข้ากับโครงสร้างใบหน้าของคุณ เพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์
ปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน ” โดยไม่ต้องศัลยกรรม “
FACIAL DESIGN & LASER
ปรับโครงหน้าโดยใช้เทคนิคพิเศษ โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
Biostimulator
ทำความรู้จักกับโปรแกรม SCULPTRA
ผลลัพธ์ที่คุณจะสัมผัสได้ในเวลาเพียง 1 เดือน
ขมับเต็มอิ่ม
การเติมเต็มบริเวณขมับช่วยสร้างสมดุลให้ใบหน้า ดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
ยกหางตา
ทำให้ดวงตาดูสดใส มีชีวิตชีวา และลดความหมองคล้ำรอบดวงตา
ลดร่องแก้มลึก
ร่องแก้มที่ชัดเจนอาจทำให้ดูเหนื่อยล้า แต่เมื่อปรับแก้แล้ว ใบหน้าจะดูสดใส เรียบเนียน และดูอ่อนวัย
ฟิลเลอร์ ( Filler )
ดับเบิ้ลวี เทคนิค Double V
รีวิว จากเคสลูกค้าจริง
ฟิลเลอร์ปรับรูปหน้า
Ultraformer III
Ulthera ( HIFU )
เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด เพื่อการยกกระชับผิวในชั้นลึก
อ่านเพิ่มเติม
ใช้เวลานานแค่ไหนจึงจะเห็นผล ?
การรักษาด้วย HIFU สามารถเห็นผลการรักษาได้ระดับหนึ่งหลังทำเสร็จ และจะเห็นได้ชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไป 1 เดือนและดีขึ้นเรื่อยๆ ใน 3-6 เดือน
ใครที่เหมาะกับการทำ HIFU?
1. ผู้ที่ต้องการกระชับผิวหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น
2. ผู้ที่ต้องการลดปัญหาการหย่อนคล้อยของใบหน้า คอ
3. ลดริ้วรอยรอบดวงตา ใต้ตา ยกเปลือกตาบน
4. ผู้ที่ต้องการลดเหนียงใต้คาง หรือมีปัญหาคางสองชั้น
ผลการรักษาอยู่ได้นานแค่ไหน?
การทำการรักษาด้วย HIFU เพียงครั้งเดียว ผลการรักษาจะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือน (ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล และการดูแลผิวบริเวณที่รักษา)
หลังการรักษา
หลังการรักษา ในบางรายอาจมีผิวแดงขึ้นเล็กน้อย แต่ก็จะหายไปเองภายในไม่เกินหนึ่งชั่วโมง และคุณสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
ข้อดีของ HIFU
1. ลบเลือนริ้วรอย
2. ยกและกระชับใบหน้า ตั้งแต่ชั้นใน
3. เพื่อความเต่งตึงของผิวหนัง
4. กระชับรูขุมขน
5. กระตุ้นการสร้าง Collagen
6. หลังทำไม่มีรอยแผล
ขั้นตอนการทำ
1. ต้องขอทำการถ่ายรูปก่อนทำ
2. จนท.จะทำความสะอาดหน้าและเครื่องสำอางค์ให้เราก่อนด้วย Cleansing Milk
3. แปะยาชาทิ้งไว้ 30 นาที
4. ลงเจลใสที่หน้าต่อเพื่อเป็นตัวนำหรือสื่อกลางในการส่งผ่านคลื่นยกกระชับผิวเข้าสู่ผิว
5. การทำแต่ละครั้ง (ทั่วหน้า) ใช้เวลาประมาณ 40-50 นาทีค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ทำค่ะ
**เราจะทำที่ละครึ่งหน้า เพื่อให้เราสามารถเห็นถึงความแตกต่างก่อนทำและหลังทำอย่างชัดเจน
Pico Laser
รักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ ลบรอยสัก
Co2 & Fractional Laser
แก้ แผลเป็นจากสิว ทำให้ผิวเรียบเรียน กระชับรูขุมขน
Co2 Laser คืออะไร?
Co2 Laser เป็นเลเซอร์ที่มีความยาวคลื่น 10,600 นาโนเมตร สามารถตัดและทำลายเนื้อเยื่อในจุดที่มีปัญหาโดยไม่ทำให้เลือดออก แพทย์จึงหันมาใช้เลเซอร์ชนิดนี้ทดแทนเครื่องจี้ไฟฟ้า เนื่องจากรักษาได้ผลดีกว่า และเกิดผลข้างเคียงน้อยกว่า โดยเฉพาะเรื่องของแผลหลังการรักษา
อ่านเพิ่มเติม
Co2 Laser มีคุณสมบัติอย่างไร
Co2 Laser มีคุณสมบัติการใช้งานคล้ายกับ Erbium Yag Laser ซึ่งเป็นเลเซอร์สำหรับปรับสภาพผิวชนิดมีแผลเหมือนกัน หรือ เข้าใจง่ายๆก็คือ เป็นเหมือนเลเซอร์ลอกผิว ใช้สำหรับกำจัดไฝ ติ่งเนื้อ รวมถึงการปรับสภาพผิวเพื่อลบเลือนริ้วรอยเหี่ยวย่น และหลุมสิว ซึ่งสามารถทำได้ทั้งที่ใบหน้า ลำคอ เข่า ข้อศอก มือ แขน
ปัญหาหลักๆที่ใช้ Co2 Laser คือ
1. กระเนื้อ
2. ไฝ, ไฝนูน
3. ขี้แมลงวัน
4. ติ่งเนื้องอกบริเวณรอบคอ ลำตัว รักแร้
5. หูด
6. หลุมสิว
7. เนื้องอกของต่อมไขมัน
8. เนื้องอกของต่อมเหงื่อ
9. สิวข้าวสาร
10. สิวอุดตันหัวปิด
ขั้นตอนการรักษา ?
ขั้นตอนในการรักษาด้วย Co2 Laser กรณีจี้ไฝ กระ จะต้องทายาชา ทิ้งไว้ 30-45 นาที หรือ ฉีดยาชาบริเวณที่ต้องทำการรักษา ในกรณีที่จุดที่ต้องการทำการรักษามีขนาดใหญ่ ทำให้ไม่รู้สึกเจ็บขณะยิงเลเซอร์ค่ะ หลังทำการรักษาแพทย์จะทำความสะอาดแผล ทายาฆ่าเชื้อ แปะแผลด้วยพลาสเตอร์กันน้ำ และจะนัดดูแผลอีกทีภายใน 1-2 สัปดาห์
ข้อทำกี่ครั้งเห็นผล?
การรักษาแผลเป็นหลุมสิวนั้นต้องทำการรักษามากกว่า 1 ครั้ง ผลการรักษาโดยทั่วไปจะเห็นผลสูงสุดหลังการรักษาประมาณ 3-6 เดือน ผลข้างเคียงที่เกิดจากการทำ Co2 Laser จะมีรอยแดงเล็กน้อยประมาณ 2 วัน จากนั้นจะเป็นสะเก็ดเล็กๆบนผิว ก่อนลอกออกไปภายใน 5-7 วัน
ผลที่ได้จากการทำ Fractional CO2 Laser
คือ หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบ รูขุมขนกระชับ ริ้วรอยลดลง กระจ่างใส
ขั้นตอนการทำ Fractional CO2 Laser
ก่อนทำจะทายาชา เพื่อเวลาทำเลเซอร์จะได้รู้สึกสบายไม่เจ็บ หรือใช้เพียงความเย็นประคบหรือการเป่าลมเย็น ภายหลังทำผิวหน้าจะมีอาการแดงและจะมีการตกสะเก็ดเป็นจุดเล็กๆตามบริเวณผิวที่ทำ ซึ่งสะเก็ดจะหลุดไปเองใน 5-7 วัน ในระหว่างนี้ควรใช้ครีมกันแดดหรือครีมบำรุงผิว การทำ Fractional LASER จะทำประมาณ 4-6 ครั้ง โดยห่างกันแต่ละครั้งประมาณ 4-6 สัปดาห์
ผลข้างเคียงจากการทำ
Fractional CO2 Laser
โดยทั่วไปก็จะไม่มีผลข้างเคียง นอกเหนือจากรอยแดงหลังทำ และสะเก็ดที่จะอยู่ประมาณ 5-7 วัน แต่คนที่มีสีผิวเข้มมาก อาจต้องระวังเรื่องรอยดำ
คำถามที่พบบ่อย
Q : จะรู้ได้ยังไงว่าเป็นฟิลเลอร์(Filler)ของแท้?
A : ควรจะทราบข้อมูลของฟิลเลอร์(Filler) ลักษณะของกล่อง แบรนด์ ชนิด รวมไปจนถึงผู้ผลิตด้วย สามารถขอดูฉลาก และผลิตภัณฑ์จากสถานประกอบการได้ ในส่วนของแท้จะต้องมี Serial Number ,REF และLot.ที่อยู่ข้างกล่อง รวมถึงสถานประกอบการนั้นๆยังต้องนำสติ๊กเกอร์ Serial Number นี้แปะไว้ในประวัติของของบุคคลนั้นๆที่เขามาทำการเติมฟิลเลอร์(Filler) (ทางMaxi clinicจะมี Serial Number.ให้ทุกครั้ง) และต้องสามารถตรวจสอบกับบริษัทผู้นำเข้าได้
Q: การเติมฟิลเลอร์(Filler)ปลอดภัยหรือไม่ ต้องฉีดแค่ไหนถึงจะเห็นผล?
A: ฟิลเลอร์( Filler )ประเภทสารไฮยาลูโรนิค แอซิด(Hyaluronic Acid)เป็นสารที่มีความปลอดภัยสูง ผ่านการรับรองจากองค์กรอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย จึงปลอดภัยและเกิดอาการแพ้ได้น้อยมากหลังจากการฉีดสารเข้าไปในตำแหน่งที่ต้องการแล้วก็จะเห็นผลในการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และที่สำคัญต้องฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญเท่านั้นเพราะถ้าฉีดผิดตำแหน่งหรือผิดวิธีอาจเกิดอันตรายถึงขึ้นผิวหนังเน่า ตาบอด หรือพิการได้
Q: ฟิลเลอร์(Filler)เติมตรงไหนได้บ้าง อย่างไร ?
A: ฟิลเลอร์สามารถเติมได้หลายจุดดังนี้
หน้าผาก ช่วยปรับโครงสร้างรูปหน้า และอาจจะเป็นเรื่องโหงวเฮ้ง หรือการเสริมให้หน้าผากดูโหนกนูน
ขมับ เพื่อ ให้ขมับดูเต็มมากยิ่งขึ้น
หางคิ้ว เป็นการฉีดเพื่อยกคิ้วให้รับกับรูปหน้า
ใต้ตา เพื่อแก้ไขดวงตาที่ดูเศร้าๆทำให้บริเวณใต้ตานั้นดูสดใสขึ้นในทันที
โหนกแก้ม เพื่อยกแก้มที่หย่อนคล้อยให้ดูกระชับ
ร่องแก้ม เพื่อลดร่องแก้มที่ดูลึกให้ดูตื้นขึ้น
มุมปาก/ริมฝีปาก เพื่อยกมุมปากขึ้น และเติมเต็มริมฝีปากให้ดูอวบอิ่ม
กรอบหน้า/แนวขากรรไกร เป็นการฉีดเก็บรายละเอียดให้กับใบหน้าหรือที่เรียกว่าการลิฟท์เพื่อให้ผิวกระชับกรอบหน้าดูคมชัด
คาง เพื่อเสริมให้ดูยาว ปรับรูปหน้าให้เป็นรูปไข่ และรับกับรูปหน้าเสริมสร้างความมั่นใจ
รอยยิ้มแห่งความมั่นใจจากลูกค้า
