การรักษาภาวะเต้านมโตในผู้ชาย ( Gynecomastia Surgery) : ด้วยการดูดไขมันเพียงอย่างเดียว ( Liposuction ) กับการดูดไขมันร่วมกับการตัดเต้านมใต้ผิวหนัง (mastectomy ใต้ผิวหนัง) ใช้วิธีการรักษาแบบไหนดีกว่า
Gynecomastia หรือภาวะเต้านมโตในผู้ชาย ซึ่งเป็นการขยายตัวของเนื้อเยื่อต่อมเต้านมโดยไม่เป็นอันตราย พบได้ประมาณ 30% ในผู้ชายวัยหนุ่ม แม้ว่าโรคนี้จะไม่อันตราย แต่สามารถส่งผล กระทบทางจิตใจ เช่น ความรู้สึกด้อยคุณค่า ภาพลักษณ์ทางร่างกายที่ไม่ดี และความเครียดทางอารมณ์
รู้เกี่ยวกับภาวะเต้านมโตในผู้ชาย (Gynecomastia)

Gynecomastia เกิดจากความไม่สมดุลระหว่างฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเตอโรน ซึ่งส่งผลให้ต่อมเต้านมมีขนาดโตขึ้น (hypertrophy) และในบางกรณีอาจมีการสะสมของไขมันมากเกินไปร่วมด้วย
ภาวะนี้แบ่งออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่:
- ระดับ I : ขยายตัวเล็กน้อย โดยไม่มีผิวหนังส่วนเกิน
- ระดับ IIa : ขยายตัวปานกลาง โดยไม่มีผิวหนังส่วนเกิน
- ระดับ IIb : ขยายตัวปานกลาง มีผิวหนังส่วนเกินเล็กน้อย
- ระดับ III : ขยายตัวมาก และมีผิวหนังส่วนเกินอย่างชัดเจน
แม้ในบางกรณีที่ไม่รุนแรง ภาวะนี้อาจหายไปเองหรือรักษาได้ด้วยการใช้ฮอร์โมน แต่ในกรณีที่เป็นเรื้อรังหรือรุนแรง การผ่าตัดยังคงเป็นวิธีรักษาที่แน่นอนที่สุด
1. การดูดไขมันอย่างเดียว (Liposuction )
เหมาะสำหรับ:
- เหมาะสมกับผู้ที่มีภาวะเต้านมโตในระดับ Grade I และ IIa ที่มีเนื้อเยื่อต่อมน้อย
- ผู้ที่มีเนื้อเต้านมโตจากไขมันส่วนเกินเป็นหลัก (Pseudogynecomastia)
- ไม่มีต่อมเต้านมแข็งหรือก้อนใต้หัวนมมาก
- ผิวหนังยังมีความยืดหยุ่นดี
ข้อดี:
- แผลผ่าตัดเล็ก (3-5 มม.) ฟื้นตัวเร็ว
- เสี่ยงแทรกซ้อนน้อย เช่น เลือดออกหรือรอยแผลเป็น
- มักไม่ต้องนอนโรงพยาบาล

ข้อจำกัด:
- ไม่สามารถกำจัดต่อมเต้านมที่มีลักษณะแข็งได้
- ถ้ามีเนื้อต่อมมาก อาจเกิดการโป่งนูนบริเวณหัวนมหลังผ่าตัด
- หากผิวหนังไม่ยืดหยุ่นดี อาจเกิดการหย่อนคล้อยหลังดูดไขมัน
2. การดูดไขมันร่วมกับการตัดต่อมเต้านมใต้ผิวหนัง (Liposuction + Subcutaneous Mastectomy)
เหมาะสำหรับ:
- ผู้ที่มีต่อมเต้านมขนาดใหญ่หรือเนื้อเต้านมแข็ง
- มีการโป่งนูนบริเวณหัวนมชัดเจน
- ผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ถาวรและรูปร่างเต้านมที่เรียบเสมอ
เทคนิคที่ใช้:
- Periareolar Subcutaneous Mastectomy เปิดแผลบริเวณรอบลานหัวนม (areola) เพื่อเข้าไปตัดเอาเนื้อเยื่อต่อมเต้านม
- Pull-through technique ใช้แผลเล็กใต้เต้านมแล้วดึงต่อมออกมา โดยไม่ผ่ารอบหัวนม
- Endoscopic-assisted technique (บางกรณี) ใช้กล้องช่วยผ่าตัดในกรณีที่ต้องการลดแผลเป็น
ข้อดี:
- กำจัดได้ทั้งไขมันและต่อมเต้านม
- ลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ
- ผลลัพธ์ชัดเจน รูปร่างทรวงอกเรียบเสมอ
ข้อจำกัด:
- แผลผ่าตัดขนาดใหญ่กว่าเล็กน้อย (มักอยู่รอบปานนมหรือใต้ราวนม)
- ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าเล็กน้อย
- อาจมีความเสี่ยงต่อแผลเป็น หรือความรู้สึกผิดปกติบริเวณหัวนม
การเลือกวิธีผ่าตัดรักษา Gynecomastia ควรพิจารณาตามชนิดของเนื้อเยื่อ ความรุนแรงของภาวะ และความคาดหวังของตัวบุคคล โดยมีแนวทางทั่วไปคือ:
- ไขมันเด่น ➜ ดูดไขมันเพียงอย่างเดียวอาจเพียงพอ
- ต่อมเต้านมเด่น ➜ ควรตัดต่อมเต้านมร่วมด้วย
- ผิวหนังหย่อนคล้อยมาก ➜ อาจต้องตัดผิวหนังร่วมด้วย skin excision ร่วม (เช่น crescent lift, mastopexy)
ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมตกแต่ง (Plastic Surgeon) เพื่อการวางแผนที่เหมาะสม ปลอดภัย และได้ผลลัพธ์ตอบโจทย์ ตามที่ต้องการ



