สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวแปลงเพศชายเป็นหญิง โดยคุณหมอคณิต (Maxi Clinic)
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่าส่วนตัวคิดจะแปลงเพศนานแล้ว แต่ด้วยความลังเลหลายๆอย่าง รวมถึงกลัวผลกระทบในอนาคต เลยใช้เวลาศึกษาหาข้อมูลค่อนข้างเยอะมาก ทั้งในอินเตอร์เน็ตและจากหลายๆคนที่ผ่าตัดแปลงเพศแล้ว ส่วนตัวมีความรู้สึกเป็นผู้หญิงมาโดยตลอดตั้งแต่เด็ก ทานและฉีดฮอร์โมนมาโดยตลอดตั้งแต่เด็กคะ สุดท้ายได้ตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะขึ้นเขียงผ่าตัด ก็เข้าไปปรึกษาคุณหมอหลายๆที่ แต่สุดท้ายมาจบที่คุณหมอคณิต
***เหตุผลที่เลือกคุณหมอคณิตคือ
1. คุณหมอคณิตเป็นอาจารย์หมอ สอนนักศึกษาแพทย์ที่ ม.ธรรมศาสตร์
2. คุณหมอได้ผ่าตัดให้กับสาวประเภท2 ดังๆหลายท่าน ไม่ขอเอ่ยนามนะคะ แล้วผลงานคือดีมาก
3. รีวิวและผลงานคุณหมอ มีองค์ประกอบครบทุกอย่างเหมือนผู้หญิง ยกเว้นไม่มีมดลูกและประจำเดือน 5555
4. ราคาแปลงเพศคุณหมอคณิต ไม่แพงด้วย เอื้อมถึงได้สบาย
5. คุณหมอแปลงเพศด้วยการดมยาสลบ และนอนโรงพยาบาล 6 วัน

มาถึงวันที่ไปพบคุณหมอกันเลยค่ะ รู้สึกตื่นเต้นมาก บรรยากาศคลีนิคคือดีค่ะ น่าเข้า เจ้าหน้าที่ขอให้ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง วัดความดัน วันนั้นหัวใจเต้นเร็วมาก คือตื่นเต้นมาก จนถึงวินาทีที่ได้พบคุณหมอ หมอซักประวัตินิดหน่อย แล้วถึงเวลาที่ตื่นเต้น หมอขอให้ถอดกางเกง หมอขอดูช้างน้อย คืออายมาก หมอเลยพูดให้ขำว่า ไม่ต้องอาย หมอเห็นมาเยอะแล้ว ของหมอก็มี พอถอดกางเกง หมอก็จับๆๆๆ พลิกๆๆๆ ดึงๆๆๆ จับดูไข่ด้วยว่าครบไหม บลาๆๆๆๆ ตรวจเสร็จหมอก็อธิบายว่าผ่ามาจะต้องดูแลยังไง พอตรวจเสร็จหมอไม่ได้บังคับว่าต้องผ่าตัดเลยนะค่ะ แต่หมอบอกแค่ว่า ถ้าสนใจก็โทรมาคอนเฟิร์ม

สุดท้ายก็ลงเอยกับคุณหมอคณิตคะ วางเงินมัดจำ นัดวันผ่าคะ เตรียมตัวไปพบจิตแพทย์

ตัดไปวันที่ไปพบจิตแพทย์เลยนะค่ะ ส่วนตัวไปพบจิตแพทย์ที่โรงพยาบาลพระราม 9 พอถึงโรงพยาบาลก็ทำประวัติเหมือนมาตรวจทั่วไปค่ะ เจ้าหน้าที่จะพาเราไปที่ห้องรอพบแพทย์ค่ะ

จิตแพทย์ต้องเข้าพบทั้งหมด 2 ท่านนะค่ะ จิตแพทย์ก็จะดูภายนอกรวมๆ คำถามง่ายๆค่ะ ว่าใช้ฮอร์โมนตั้งแต่เมื่อไหร่ รู้สึกตัวว่าเป็นผู้หญิงตั้งแต่ตอนไหน แต่งตัวเป็นผู้หญิงเมื่อไหร่ คำถามไม่มีอะไรมาก แต่จิตแพทย์จะให้เราพูดตามความจริงเท่านั้นเอง เพราะถ้าไม่พูดความจริง หลอกหมอ นั่นคือความผิดพลาดของเราค่ะ สุดท้ายก็ได้ใบจิตแพทย์มาครอบครอง

มาถึงขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนแปลงเพศเลยค่ะ หมอจะให้หยุดยาทุกชนิด อาหารเสริมทุกชนิด อย่างน้อย 1 เดือนค่ะ ก่อนวันไปขึ้นเขียง คุณหมอจะให้ทานยาถ่าย และโกนขนช้างน้อยให้เรียบร้อยค่ะ เตรียมของใช้ส่วนตัวต่างๆ เตรียมของที่จะต้องใช้หลังผ่าตัดค่ะ เช่น เบตาดีน สำลี ก้านพันสำลี น้ำเกลือ ถุงยางอนามัย KY แผ่นรองซับ ผ้าอนามันเป็นห่วง ไอโฟน ไอแพด เอาไว้ไปนอนเล่นแก้เซ็งค่ะ เพราะต้องอยู่โรงพยบาลถึง 6 วันเชียว

 

เช้าวันเข้าโรงพยาบาล ส่วนตัวผ่าตัดที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ค่ะ แต่จริงๆคุณหมอคณิตผ่าที่พญาไท 2 ด้วยนะค่ะ แต่คนละราคา (โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ 90,000 บาท และโรงพยาบาลพญาไท 180,000 บาทค่ะ) พอถึงโรงพยาบาลก็ทำประวัติทั่วไป แต่ไม่ต้องไปทำบัตรนะค่ะ เพราะทางทีมงานคุณหมอทำบัตรไว้ให้หมดแล้ว โรงพยาบาลคนเยอะมาก เพราะเป็นโรงพยาบาลรัฐบาล กว่าจะจองห้องเสร็จ กว่าจะเอ็กซเรย์ปอดเสร็จก็เที่ยงพอดีคะ

ห้องพักคือดีมากคะ มีห้องน้ำในตัวพร้อมน้ำอุ่น ทีวี ตู้เย็น เตียงไฟฟ้า โซฟาญาติ (ส่วนตัวนอนห้องพิเศษเพิ่มอีก 20,000 บาทนะค่ะ)

สักพักก็จะมีพยาบาลมาวัดความดันทั่วไป และมีวิสัญญีแพทย์มาคุยกับเรานิดหน่อย  เรื่องการดมยาค่ะ  และบอกเวลาว่าจะขึ้นเขียงกี่โมง นักศึกษาแพทย์ก็มาด้วยนะค่ะ แต่ต้องบอกว่าน้องๆนักศึกษาแพทย์คือน่ารักทุกคนค่ะ

คืนแรกไม่ต้องทำอะไรนอกจากกินยาถ่าย ถ่ายบ่อยมากๆๆๆๆ ถ่ายจนหน้าซีด พอเวลา 20:00 พยาบาลมาตามคุณหมอสั่ง สวนค่ะสวน สวนล้างจนหมดไส้หมดพุง นอนหมดแรงค่ะ ***งดอาหารและน้ำหลังเที่ยงคืนนะค่ะบอกก่อน***

 

เช้าวันผ่าตัด รีบตื่นเลยค่ะ ล้างหน้า อาบน้ำ แปรงฟันค่ะ เพราะจะไม่ได้อาบน้ำสระผมอีกหลายวัน
วินาทีที่เจ้าหน้าที่มารับ ตื่นเต้นมากค่ะ พยาบาลให้กำลังใจสุดๆ พอถึงห้องผ่าตัด จะมีห้องนอนรอนะค่ะ เจ้าหน้าที่มาซักประวัติส่วนตัวนิดหน่อย ถามว่ามาผ่าตัดอะไร แล้วก็โดนเจาะน้ำเกลือด้วยวิสัญญีแพทย์ วิสัญญีแพทย์สวย ใจดีมาก พูดคุยกันนิดหน่อยแล้วก็บอกว่า เดี๋ยวเราอยู่ด้วยกันตลอดการผ่าตัดนะค่ะ

วินาทีเข้าผ่าตัด เจ้าหน้าเข็นเตียงไป รู้สึกกลัวปนตื่นเต้น ได้เข้าห้องผ่าตัดห้อง 5 พอเข้าห้อง หนาวมาก!!! แล้วก็ลุกขึ้นไปที่เตียง วิสัญญีแพทย์บล็อคหลังเพื่อจะเอาไว้ให้ยาแก้ปวดหลังผ่า นอนตัวงอเหมือนกุ้ง เจ็บตอนแทงเข็มนิดหน่อย พอเสร็จจากบล็อคหลัง เจ้าหน้าที่ก็ให้นอนกางแขน ใส่สายอะไรบ้างก็ไม่รู้เต็มตัวเลย แล้วก็หลับหายไปนานมาก เข้าห้องผ่าตัด 9:00 ตื่นมาอีกที 17:00

วินาทีแรกที่รู้สึกตัวในห้องพักฟื้น รู้สึกเหมือนปวดฉี่หนักๆ ก็เลยเรียกหมอ “ไม่ไหวแล้วค่ะ!!!! ปวดฉี่มาก ช่วยด้วยๆๆๆๆ”  หมอมาถึงก็บอกว่า ฉี่ได้เลยค่ะมีถุงฉี่นะค่ะ แต่ตอนนั้นคือปวดฉี่สุดๆจริงๆค่ะ หมอบอกว่าการผ่าตัดเสร็จแล้วนะค่ะ ทุกอย่างเรียบร้อย แล้วก็เลยถามหมอในห้องผ่าตัดว่า หมอคณิตไปไหนค่ะ?? ได้คำตอบว่า หมอคณิตไปตรวจคนไข้ต่อ สักพักก็เข็นขึ้นห้องพักฟื้น

 

กลับมาถึงห้องพักฟื้น เจอพยาบาลบนชั้นที่นอนรอต้อนรับเยอะมาก และเจอกำลังใจที่ดี(แฟน)ยืนดูอยู่ห่างๆเพราะกลัวว่าจะขวางเจ้าหน้าที่ พอเปลี่ยนเตียงเรียบร้อย พยาบาลก็วัดความดัน ดูแลหลายๆอย่าง คือดูแลดีมาก อาการเจ็บไม่มีนะค่ะต้องบอกก่อนเพราะวิสัญญีแพทย์ให้ยาแก้ปวดผ่านไขสันสันหลังตลอดเวลาโดยผ่านเครื่อง ตามตัวมีแต่สายเยอะแยะไปหมด (สายน้ำเกลือ,สายยาแก้ปวดผ่านไขสันหลัง,สายฉี่,สายเลือดเสีย) พ่วงด้วยเครื่องวัดออกซิเจนหนีบนิ้วไว้ตลอดจนปวด พอถอดออกเครื่องก็ร้อง พยาบาลก็วิ่งแตกตื่นนึกว่าตาย 555 ก็คนมันเจ็บนิ้วนี่

คืนแรกผ่านไปไม่มีอะไรมากนอกจากอาการหน่วงตลอดเวลาคล้ายปวดฉี่หนักๆ พอตื่นเช้าก็ไม่มีอะไร ตื่นมาคลำดู มีผ้าปิดแผลไว้หนามาก หนาชนิดที่ว่าต้องนอนถ่างขาตลอดเวลา ใจนึงก็เจ็บสุดชีวิต อีกใจนึงก็ดีใจที่ช้างน้อยหายไปแล้ว

รูปนี้คือภาพวันที่ 2 ค่ะ วันแรกที่ออกจากห้องผ่าตัด ไม่ได้ถ่ายไว้ แต่เป็นแบบนี้จนวันเปิดแผลค่ะ

วันที่ 3 อาการปวดแผลมาแล้ว เพราะว่าวิสัญญีแพทย์ให้ยาแก้ปวดผ่านไขสันหลังด้วยเครื่องน้อยลง ปวดหน่วงๆแสบๆมาเป็นระยะๆ จนต้องร้องขอยาแก้ปวดแบบทานบ่อยๆ

ตัดบทไปวันเปิดแผลดีกว่าคะ  คุณหมอมาแต่เช้าเลยค่ะ พยาบาลตามคุณหมอมาด้วยอุปกรณ์ล้างแผล คุณหมอมาถึงก็ถามอาการรวมๆและไม่พูดพร่ำทำเพลง คุณหมอบรรเลงแกะผ้าก๊อซ ใจเต้นรัวเหมือนรัวกลอง กลัวก็กลัว ตื่นเต้นก็ตื่นเต้น พอแกะเท่านั้นแหละ โอ้ววววว…..กลิ่นเบตาดีนตีเข้าจมูก หมอพูดตลอดไม่หยุดปาก สวยๆๆๆๆๆๆ สวยมาก สวยๆๆๆๆ แต่ส่วนตัวไม่กล้าดู กลัวมาก กลัวเจ็บ
หลังจากนั้น คุณหมอค่อยๆดึงผ้าก๊อซที่สอดไว้ในช่องคลอดเทียม เสียงดังเหมือนดึงทิชชู่แรงๆ ผ้าก๊อซยาวมากๆๆๆๆ จับแขนคุณหมอไม่ปล่อยเลย เพราะกลัวมาก พอดึงผ้าก๊อซหมด คุณหมอก็ดึงถุงยางอนามัยออก หลังจากนั้นคุณหมอขอล้วงดูภายในช่องคลอด ใจก็กลัวเจ็บมาก แต่พอคุณหมอเอานิ้วเข้าไปกลับไม่เจ็บ มีความรู้สึกแปลกๆแบบบอกไม่ถูก สักพักคุณหมอก็ขอให้หมออีกท่านล้วงดู ให้ล้วงสิค่ะ หมอหล่อขนาดนั้น พอล้วงเสร็จคุณหมอก็เช็คองค์ประกอบทั่วไป พร้อมจุดสำคัญคือ เม็ดค่ะ คือมันรู้สึกแปลกๆแบบบอกไม่ถูก คือคนไม่เคยมีค่ะ คุณหมอก็ถามย้ำตลอด เจ็บหรือเสียว?? ก็ตอบคุณหมอไม่ได้ว่าอะไร แต่ไม่เจ็บนะค่ะสาบาน

รูปนี้เปิดแผลวันแรกค่ะ บวมเหมือนผีเสื้อยักษ์เลยค่ะ

คุณหมอให้หิ้วถุงฉี่ติดตัวกลับบ้าน และยังไม่แหย่อุปกรณ์ คุณหมอนัดอีกทีอีก 3 วันมาถอดถุงฉี่และแหย่อุปกรณ์

 

ตัดไปวันถอดถุงฉี่เลยค่ะ พี่แตกับพี่แนน มือซ้ายและขวาของคุณหมอโทรมาให้เอาหนังยางรัดแกงรัดสายถุงฉี่ไว้ก่อนถึงคลีนิค เพื่อจะได้ปวดฉี่ตอนถึงคลีนิค เพราะต้องหัดฉี่เองให้ได้ พอถึงคลีนิคก็ดื่มน้ำเยอะมาก แล้วก็ถอดสายฉี่ ไม่เจ็บค่ะ สยิวๆนิดหน่อยพูดตรงๆ หลังจากนั้น งานเข้าค่ะ ดูในภาพเลยค่ะ
วันนี้เจอไซส์ S ค่ะ ไซส์เริ่มต้นค่ะ คุณหมอยังไม่มานะค่ะ พี่แตมาเองค่ะ พี่แตคือมือซ้ายของคุณหมอ นอนราบ ถ่างขา แล้วพี่แตค่อยๆแหย่เข้าไปในช่องคลอด ตื่นเต้น กลัว แต่พอเข้าไปเท่านั้นแหละ เออๆๆไม่เจ็บเหมือนอ่านในรีวิวหลายๆคนนะค่ะ ทนไหวๆๆๆ พี่แตสอนว่า สอดเข้าไป 2 นิ้วก่อนนะ แล้วกดลงราวๆ 45 องศา พอเข้าไปได้ก็ตรงยาวเลย พี่แตจะถามเรื่อยๆ เจ็บไหมๆๆๆๆตลอดเวลา แต่ส่วนตัวคือกลัว สรุปช่องคลอดลึก 6 นิ้วจ้า พอแหย่ได้พี่แตรีบไปตามหมอเลยค่ะ หมอก็รีบมาดู แล้วก็ให้เอาค้างไว้สักพัก สักพักคุณหมอให้ดึงออก แล้วตรวจดูรวมๆแล้วเอานิ้วสอดเข้าตรวจสอบความเรียบร้อย และสอนแหย่อุปกรณ์(แยงโม) คุณหมอแนะนำให้แยงโมวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น ครั้งละ 15-30 นาที สักพักก็กลับบ้าน พอถึงบ้านเท่านั้นแหละ ไข้กินค่ะ ทานยาแล้วหลับ ไม่ได้แยงโม พอตื่นเช้ามาเท่านั้นแหละค่ะ แยงโมไม่เข้า โทรหาพี่แตวุ่นวายไปหมด จนสุดท้ายคุณหมอก็ให้ไปหา พอถึงคลีนิค ด้วยความกลัวคุณหมอ ก็เลยให้พี่แตแยงโมให้ สรุปไม่เข้าค่ะ แล้วพี่แตก็เอานิ้วแหย่ สรุปช่องคลอดตีบค่ะ งานเข้า!!!!!!! ต้องรอคุณหมอค่ะ พอคุณหมอมาเท่านั้นละค่ะ เอานิ้วแหย่ สรุปคือผังผืดเกาะไวมาก อันนี้คำพูดของคุณหมอนะค่ะ หมอไม่พูดอะไรค่ะ เอานิ้วแหย่เข้าไปจนผังผืดหลุด เจ็บมาก!!!!!! เจ็บจนฉี่จะไหล เจ็บจนน้ำตาไหล เจ็บจนกรี๊ดลั่นคลีนิค สุดท้ายก็แยงโมได้ คุณหมอให้แยงโม 3 ครั้งเลยงานนี้ กลัวผังผืดเกาะอีก ทุกๆครั้งตอนแยงโม พอถอดโมออกมา จะมีเลือดเสียตามออกมาตลอด ดูน่ากลัว แต่ไหลอยู่ราวๆ 1 สัปดาห์ หลังจากแยงโมทุกครั้ง ก็ต้องสวนล้างช่องคลอดให้สะอาด และเช็ดทำความสะอาดให้ดี

3 สัปดาห์ผ่านไป คุณหมอให้ไปพบ เพื่อตรวจรวมๆและเปลี่ยนขนาดแท่งโม งานเข้าค่ะ!!!!!

วันนี้เจอไซส์ M จ้า ใหญ่มาก!!!!! วันนี้พี่แตไม่อยู่นะคะ อยู่แต่พี่แนนมือขวาคุณหมอ พี่แนนจะถนัดเรื่องหน้าอกและความสวยอื่นๆ แต่พี่แนนก็ไม่ทิ้งนะค่ะ อยู่เป็นกำลังใจข้างๆตลอด คุณหมอคุยถามอาการนิดหน่อย และแจ้งว่าต้องเปลี่ยนขนาด เลยขอคุณหมอขึ้นไปบนคลีนิคเพื่อแยงโมไซส์เล็กนำร่อง พอคุณหมอมาเท่านั้นแหละค่ะ โอ้วววววว…..หมอดึงโมไซส์ S ออก ตามด้วยแหย่ไซส์ M เจ็บมาก!!!! ตอนนั้นคิดตลอดเวลา พังๆๆๆๆๆ หมอแหย่เข้าไปได้ 5 นิ้ว ก็บอกให้หมอหยุด บอกว่าจะดันเอง หมอก็ยอม สรุปได้เกือบ 6 นิ้วค่ะ ไม่ไหวๆๆเจ็บมาก และหมอสั่งให้พี่แนนมือขวาคุณหมอตัดไหมทั้งหมดให้เกลี้ยง แยงโมได้สักพัก พี่แนนก็ให้เอาออก มาเริ่มตัดไหมกัน พอตัดเสร็จนึกว่าจะจบ แยงต่อ เจ็บมากๆๆๆ เจ็บจนขาสั่น หลังจากกลับจากคลีนิคก็แยงโมต่อนะค่ะ เพราะกลัวตันอีก

ตอนนี้ผ่าตัดครบ 2 เดือนแล้วค่ะ คุณหมอนัดไปตรวจความเรียบร้อยรวมๆพร้อมตรวจภายใน และที่สำคัญขยายช่องคลอดเทียมไซส์ L (ไซส์ใหญ่สุด) ตอนแรกก็ไม่อยากขยายนะค่ะ เพราะคุณหมอบอกว่าอยากให้ขยาย เพราะอนาคตต้องใช้งานจริง

อันนี้คือภาพแท่งโมไซส์ L ใหญ่สุดค่ะ ตอนแรกก็นึกว่าจะไม่ไหว คุณหมอจะแยงโมให้ แต่ก็แอบกลัวว่าคุณหมอจะทำเจ็บ เลยขอคุณหมอแยงโมเอง สรุป…เข้าได้ค่ะ ตึงๆนิดหน่อย อาจจะเพราะโชคดีที่ใช้ไซส์ M เปิดทางไว้ ความลึกเป็นที่น่าพอใจ ได้ 5 นิ้วนิดๆค่ะ จากนั้นคุณหมอก็ให้แยงไว้สักพัก พอแยงเสร็จคุณหมอก็มาตรวจความเรียบร้อยโดยรวมอีกครั้ง และตรวจภายในว่าเรียบร้อยดีหรือเปล่า คุณหมอบอกว่าสามารถลองใช้งานได้แล้ว แต่ห้ามรุนแรง

ตอนนี้รูปร่างภายนอกถ้าเทียบกับวันแรกที่เห็นคือแตกต่างมากๆ สวยขึ้นจนเหมือนไม่ใช่อันเดียวกัน รวมๆแล้วมีครบทุกอย่าง แคมนอก แคมใน คริตอริส ครบเหมือนผู้หญิงทุกๆอย่าง ยกเว้นมดลูกและประจำเดือน

ตอนนี้ก็ต้องคอยแยงโมทุกวัน เพื่อไม่ให้ช่องคลอดเทียมตัน และรักษาความสะอาด

อันนี้คืออาวุธประจำกายจากคลีนิคคุณหมอคณิตค่ะ ครบถ้วนทุกไซส์ค่ะ

ท้ายที่สุดนี้ หวังว่าเรื่องราวนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจจะผ่าตัดแปลงเพศ และผู้ที่ต้องการหาความรู้ สำหรับผู้ที่ต้องการผ่าตัดแปลงเพศ สามารถสอบถามข้อมูลและขอดูผลงานได้หลังไมค์ค่ะ หรือเข้าไปสอบถามและปรึกษาที่คลีนิคหมอคณิตได้เลยค่ะ อยู่ตรงเจ๊เล้งดอนเมือง Maxi Clinic โทร 02-5215181 , 092-5528181
www.maxiclinic.com
Facebook : MAXi Cosmetic Sugery
IG : maxi.clinic
Youtube : maxi.clinic
Line ID : maxi.clinic

ทางคลีนิคคุณหมอคณิต ไม่ได้มีแค่แปลงเพศนะค่ะ มีเสริมหน้าอก และเสริมความงามครบวงจร คุณหมอใจดีมากๆค่ะ เป็นกันเอง เอาคอเป็นประกันค่ะ

สุดท้ายนี้ก็ต้องขอขอบพระคุณคุณหมอคณิต  พี่แต พี่แนน และทีมงานคุณหมอทุกๆคนที่มอบชีวิตใหม่ให้ค่ะ โดยเฉพาะหมอคณิตค่ะ เปรียบเหมือนคุณพ่อได้เลย เพราะการผ่าตัดครั้งนี้ เหมือนได้ชีวิตใหม่จริงๆค่ะ

*** ไปพบคุณหมอ อย่าลืมนะค่ะ ว่าอ่านมาจากรีวิวนี้ เผื่อได้ราคาพิเศษ

ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เสียเวลาเข้ามาอ่านค่ะ

 

ที่มา  http://dungdong.com/forum.php?mod=viewthread&tid=136285