ทำความรู้จักกับสารเติมเต็มฟิลเลอร์
เมื่อเริ่มมีอายุมากขึ้น อาจจะมีปัญหาที่จะต้องหนักใจไม่ว่าจะเป็นริ้วรอย ร่องลึก หน้าตอบ ริ้วรอยใต้ตา หรือแม้กระทั่งการปรับรูปหน้าปัญหาเหล่านี้จะหมดไป เพียงการเติมสารเติมเต็มประเภทกรดไฮยารูโรนิค แอซิด(Hyaluronic Acid)ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่แล้วในชั้นผิวหนัง เป็นสารอุ้มน้ำที่สำคัญของผิว เมื่อเวลาผ่านไปคอลลาเจน อีลาสติน และไขมันใต้ผิว จะมีปริมาณลดลงตามธรรมชาติ ทำให้ผิวอุ้มน้ำได้ลดน้อยลงและหย่อนคล้อย ดังนั้นการเติมสารนี้เข้าไปในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มการอุ้มน้ำให้กับผิว แล้วยังเติมเต็มภายใต้ชั้นผิว ทำให้ร่องลึกนั้นดูตื้นขึ้น ใต้ตาจากที่ดูลึก ดูเศร้าก็จะดูสดชื่นขึ้นหรือแม้แต่การปรับรูปหน้าก็ยังสามารถทำให้ใบหน้ากลับมากระชับ ดูมีน้ำมีนวล อ่อนเยาว์ เปล่งปลั่งอย่างเป็นธรรมชาติ สามารถเสริมสร้างความมั่นใจได้ในทันที
1.ฟิลเลอร์(Filler)คือ ?
- ฟิลเลอร์ (Filler) คือสารเติมเต็มที่ใช้เสริมหรือเติมเต็มในชั้นผิว ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปสารภายใต้ชั้นผิวจะมีปริมาณลดลงตามธรรมชาติ ทำให้ผิวอุ้มน้ำได้ลดลง ฉะนั้นฟิลเลอร์(Filler)ช่วยแก้ไขปัญหาความเปลี่ยนแปลงเรื่องริ้วรอยต่างๆ ร่องลึกให้ดูเนียนเรียบ รอยบุ๋ม ริ้วรอยใต้ตา หน้าตอบให้ดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวล หรือจะเป็นการปรับรูปหน้า ให้หน้าเรียว ใบหน้ายกกระชับ และรวมไปถึงการเติมคาง เติมปากและเติมหน้าผาก เพื่อให้รับกับใบหน้า เสริมสร้างบุคลิกภาพได้อย่างมั่นใจ
ฟิลเลอร์( Filler)มีกี่ประเภท คือ?
ฟิลเลอร์( Filler) มี 2 ประเภท
- กลุ่มสารเติมเต็มที่เป็นสิ่งแปลกปลอม คือซิลิโคน หรือพาราฟิน อาจจะมองว่าราคาถูกมาก แต่เป็นสารอันตราย ร่างกายไม่สามารถย่อยสลายเองได้ เป็นสารไม่ปลอดเชื้อที่ห้ามใช้ทางการแพทย์ ซึ่งปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย. นอกจากซิลิโคนเหลว ยังมี,Artefill , Aquamid,Aqualift,Aquaderm , Radiesse ( calcium hydroxlapatite),Sculptra ( poly-L-lactic acid)ฯลฯ พวกนี้ฉีดสลายไม่ได้ ต้องขูดออกอย่างเดียว จำง่ายๆ ถ้าเจอใครบอกว่าฉีดฟิลเลอร์ อยู่ได้หลายปีให้คิดไว้ได้เลยว่าสารฟิลเลอร์พวกนี้ ไม่ผ่านอย.และฉีดสลายให้หมดไปไม่ได้
- กลุ่มสารเติมเต็มตามธรรมชาติซึ่งอยู่ได้ชั่วคราว เป็นการสังเคราะห์สารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid )ซึ่งสารนี้จะมีอยู่ในผิวเราตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่จะเสื่อมจะสภาพลงเมื่อเรามีอายุมากขึ้น การฉีดสารไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) เข้าสู้ร่างกายจึงมีโอกาสแพ้น้อยมาก มีอายุใช้งานประมาณ 1- 2 ปี และหลายประเทศมีการนำมาฉีดกันอย่างแพร่หลายรวมทั้งตามคลินิกในเมืองไทย แต่ในประเทศไทยยังไม่มีสารฟิลเลอร์ ( Filler )ตัวไหนผ่านอนุมัติ อย. เพื่อใช้ทางด้านความสวยงาม
การเติมฟิลเลอร์( Filler)จะช่วยแก้ไขในกรณี ?
- ใบหน้าดูเหนื่อยอ่อน หน้าดูเศร้าตลอดเวลา
- ปรับรูปหน้า เช่นใบหน้าใหญ่ให้ดูเล็กเรียวลง ดูมีมิติ
- รักษาใบหน้าที่ไม่สมส่วน
- ปรับใบหน้าให้ดูหวานและอ่อนเยาว์
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์(Filler)?
- ดูแลง่าย สะดวกรวดเร็ว ดูเป็นธรรมชาติ แค่ฉีดก็ดูสวยขึ้นได้ทันที
- เจ็บน้อย หลังทำไม่มีแผล ไม่ต้องพักฟื้น กลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ปกติ
- ไม่กระตุ้นภูมิแพ้ ผลข้างเคียงน้อย
ข้อเสียของการเติมฟิลเลอร์(Filler)
- ถ้าไม่พอใจ ต้องกลับมาฉีดยาสลาย
- อยู่ได้ไม่นาน ต้องมาเติม ทุก 6 เดือนถึง 1 ปี
- มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่เข้ารับการฉีดด้วย
- ต้องฉีดโดยแพทย์ที่ชำนาญเท่านั้นเพราะถ้าฉีดผิดวิธีอาจเกิดอันตรายถึงขึ้นผิวหนังเน่า ตาบอด หรือพิการได้
การฉีดฟิลเลอร์(Filler)มีผลข้างเคียงหรือไม่?
- ฉีดไม่ถูกตำแหน่ง เช่นฉีดตื้นหรือลึกเกินไป
- บวมไม่ยุบ โดยเฉพาะการฉีดเติมร่องใต้ตาเป็นผลจากการอุดตันทางเดินน้ำเหลือง ทำให้ตาดูบวมๆคล้ายถุงใต้ตา
- อาจเกิดเป็นคลื่นบริเวณผิวที่ฉีดทำให้ผิวไม่เรียบเนียน ขรุขระ หรือเป็นก้อนๆ
- อาจจะเกิดการอักเสบ(บวม แดง ผื่นคัน) หรืออาการปวดซึ่งควรรีบไปปรึกษาแพทย์ผู้ฉีด
- เนื้อเยื่อข้างเคียงตาย จากการที่อนุภาคของสารเติมเต็มไปอุดตันเส้นเลือดขนาดกลาง พบได้บริเวณปีกจมูกหรือจากการเติมร่องแก้ม
- ตาบอด อันนี้อันตรายสุด มักเกิดจากการฉีดเสริมจมูกอย่างผิดวิธีทำให้อนุภาคของสารเติมเต็มหลุดเข้าไปอุดตันเส้นเลือดที่ดวงตาได้